ประวัติอายุของอันเดอร์เทเกอร์ที่มีปัญหา[แก้]
ประวัติจริงของ ดิอันเดอร์เทเกอร์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1962 เพราะ เจ้าตัวมายืนยันแล้วว่าตนเองเกิดปี ค.ศ 1962 แต่ทาง WWE บอกประวัติไว้ผิดซึ่งบอกไปเป็นปี ค.ศ. 1965 เพราะ ถ้าอันเดอร์เทเกอร์ เกิดปี ค.ศ. 1965 จริงทำไมตอนที่อันเดอร์เทเกอร์ได้แชมป์ WWE สมัยแรก เขาไม่ได้เป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในช่วงนั้น เพราะ ตอนที่ เดอะ ร็อก ได้แชมป์โลก สมัยแรกแค่อายุ 26 ปีเท่านั้น ถ้าบอกมาว่า อันเดอร์เทเกอร์เกิดปี ค.ศ. 1965 จริง เจ้าตัวก็ต้องได้เป็นแชมป์ที่อายุน้อยที่สุดแล้วเพราะตอนที่อันเดอร์เทเกอร์ได้แชมป์ แค่อายุ 26 ปีเหมือนกัน ได้แชมป์โลกเส้นแรก เมื่อปี 1991 ศึกเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ ได้จาก ฮัลค์ โฮแกน ดังนั้น เจ้าตัวเลยมาบอกว่าตนเองเกิดปี ค.ศ. 1962 และตอนที่ได้แชมป์โลกสมัยแรกคือตอนอายุ 29 ปี
ประวัติในสังเวียนมวยปล้ำอาชีพ[แก้]
ดิอันเดอร์เทเกอร์ เริ่มอาชีพมวยปล้ำในสมาคม เวิลด์แคลสแชมเปียนชิปเรสต์ลิง หรือ WCCW ในปี ค.ศ. 1984 จากนั้นเขาได้ปล้ำให้กับสมาคม WCW ในชื่อ "มีน" มาร์ค คอลลัซ และหมดสัญญา ในปี ค.ศ. 1990 เขาจึงได้ย้ายไปปล้ำในสมาคม WWF หรือ WWE ในปัจจุบัน ซึ่งเขาปรากฏตัว ในเดือนพฤศจิกายนในปีนั้นเอง ในปัจจุบัน อันเดอร์เทเกอร์ ถือว่าเป็นนักมวยปล้ำผู้อาวุโสที่ยังคงปล้ำให้กับสมาคม WWE มาจนถึงทุกวันนี้
เวิลด์เรสต์ลิงเฟเดเรชั่น / เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (1990 - ปัจจุบัน)[แก้]
ในสมาคม WWE ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้รับบทนักมวยปล้ำถึง 2 คาแรคเตอร์ด้วยกัน ได้แก่ เดอะ เดทแมน(สัปเหร่อหรือผีดูดเลือด) และ อเมริกัน แบด แอส (นักเลงขี่มอเตอร์ไซค์ชาวอเมริกัน) ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และในบทนั้นเขามีน้องชายเป็นนักมวยปล้ำที่มีฉายาเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์นามว่า เคน (เกลน จาคอบส์) ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมกลุ่มเป็นคู่แทคทีมนามว่า เดอะบราเธอร์ออฟเดสตรัคชัน อันเดอร์เทเกอร์ มีชื่อเสียงโด่งดังจากสถิติไร้พ่าย ในศึก เรสเซิลเมเนีย ทั้ง 20 ครั้ง ด้วยสถิติ 20-0 อันเดอร์เทเกอร์ เป็นแชมป์โลก 7 สมัย (แชมป์ WWE 4 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สมัย) นอกจากนั้น อันเดอร์เทเกอร์ ยังเป็นผู้ชนะ รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2007 ซึ่งเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ออกมาเป็นอันดับที่ 30 และได้เป็นผู้ชนะอีกด้วย ปัจจุบันเขาได้แต่งงานกับ (มิเชล แมคคูล) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ จิมมี่ สนูกก้า ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 7 เป็นครั้งแรกของ อันเดอร์เทเกอร์ และสามารถเอาชนะ จิมมี่ สนูกก้า มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 1-0 (สมัยนั้นยังไม่การจดจำสถิติ)
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ เจค โรเบิร์ตส์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 8 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ เจค โรเบิร์ตส์ มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 2-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ ไจแอนท์ ก็อนซาเลซ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 9 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ ไจแอนท์ ก็อนซาเลซ มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 3-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ คิง คอง บันดี ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 11 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ คิง คอง บันดี้ มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 4-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ เควิน แนช ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 12 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ เควิน แนช มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 5-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ ไซโค ซิด ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 13 ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ WWF โดยไม่มีกติกา สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ ไซโค ซิด คว้าแชมป์ WWE มาได้สำเร็จและสร้างสถิติ 6-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ เคน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 14 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ เคน มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 7-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ บิ๊ก บอส แมน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 15 กติกานรกในกรงเหล็ก ใครแพ้ต้องถูกจับแขวนคอ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บิ๊ก บอส แมน มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 8-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้มารับบท อเมริกัน แบด แอส (นักเลงขี่มอเตอร์ไซค์ชาวอเมริกัน) และได้เจอกับ ทริปเปิล เอช ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 17 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช มาได้สำเร็จและสร้างสถิติ 9-0
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ ริก แฟลร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 18 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ ริก แฟลร์ มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 10-0 (เป็นการนับสถิติไร้พ่ายของอันเดอร์เทเกอร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก)
อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ บิ๊กโชว์ และ เอ-เทรน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 19 กติกาการปล้ำ 2 รุม 1 โดยอันเดอร์เทเกอร์โดนรุม เดิมเป็นกติกาแทคทีมโดยจับคู่กับ นาธาน โจนส์ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ บิ๊กโชว์ และ เอ-เทรน มาได้สำเร็จด้วยสถิติ 11-0
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 อันเดอร์เทเกอร์ ได้กลับมารับบท เดอะ เดทแมน (สัปเหร่อ) อีกครั้ง และได้ปล้ำกับ เคน เป็นครั้งที่ 2 สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เคน และสร้างสถิติเป็น 12-0 ไปได้สำเร็จ
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 อันเดอร์เทเกอร์ได้ปะทะกับนักมวยปล้ำนักฆ่าตำนานอย่าง แรนดี ออร์ตัน สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ จัดการ แรนดี ออร์ตัน ด้วยท่า Tombstone Piledriver และสามารถหยุดสถิตินักฆ่าตำนานไว้ได้และสร้างสถิติเป็น 13-0 ไปได้สำเร็จ จากนั้น แรนดี ออร์ตัน ก็ลอบทำร้ายอันเดอร์เทเกอร์ ตลอดเวลา และท้าเจอกันในศึก อาร์มาเกดดอน (2005) ในการปล้ำ เฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เอาชนะมาได้สำเร็จ
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ มาร์ก เฮนรี ในการปล้ำจับยัดใส่โลงศพ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายจับ มาร์ก เฮนรี ยัดใส่โลงศพ ทำให้ ดิอันเดอร์เทเกอร์ เป็นผู้ชนะและสร้างสถิติเป็น 14-0 ไปได้สำเร็จ
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) อันเดอร์เทเกอร์ ได้เป็นผู้ชนะ รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2007 ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ บาทิสตา ในการเดินพันระหว่าง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ สถิติที่ไม่เคยแพ้ใคร 14-0 ผลปรากฏว่า อันเดอร์เทเกอร์ จัดการ บาทิสตา ด้วยท่า Tombstone Piledriver และสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท มาครองได้พร้อมกับสร้างสถิติเป็น 15-0 ไปได้สำเร็จ
ในศึก โนเวย์เอาท์ (2008) อันเดอร์เทเกอร์ ได้เป็นผู้ชนะจากแมตช์กรงเหล็ก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ จากการหาผู้ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในศึก เรสเซิลเมเนีย ก็ได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกกับ เอดจ์ และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 อันเดอร์เทเกอร์ ก็สามารถเอาชนะ เอดจ์ ด้วยท่า เฮล เกท คว้าแชมป์ไปได้พร้อมกับสถิติ 16-0 แต่อีกเดือนถัดมา วิคกี เกอร์เรโร ก็สั่งปลดอันเดอร์เทเกอร์ออกจากตำแหน่งแชมป์ โดยอ้างว่า อันเดอร์เทเกอร์ใช้ท่า เฮล เกท ในการต่อสู้กับ เดอะ เกรท คาลี ซึ่งเป็นท่าที่อันตราย ทำให้ตำแหน่งแชมป์ว่าง เอดจ์ และ อันเดอร์เทเกอร์ ต้องไปเจอกัน ในศึก วันไนท์สแตนด์ (2008) ในแมตช์การปล้ำการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้และ เอดจ์ ก็ได้แชมป์อีกครั้งจากการช่วยเหลือของ เคิร์ท ฮอว์กินส์และแซค ไรเดอร์ ส่งผลให้อันเดอร์เทเกอร์ถูกไล่ออก ต่อมาวิคกีก็รู้ว่า เอดจ์ เป็นชู้กับ คริสตัล ทำให้วิคกีจึงเรียกตัวอันเดอร์เทเกอร์กลับมา WWE อีกครั้ง โดยเจอกับ เอดจ์ ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2008) ในแมตช์การปล้ำเฮลอินเอเซล สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็สามารถล้างแค้น เอดจ์ ได้สำเร็จ
บิ๊กโชว์ ได้ไปลอบทำร้าย อันเดอร์เทเกอร์ ทำให้ อันเดอร์เทเกอร์ แค้นมากจึงไปขอท้าเจอกับ บิ๊กโชว์ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2008) ในรูปแบบการปล้ำ (Casket Match) จับคู่ต่อสู้ยัดใส่โลงศพ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็สามารถเอาชนะ บิ๊กโชว์ ไปได้สำเร็จ
เจบีแอล ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) แล้วประกาศว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้กับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชอว์น ไมเคิลส์ ก็ออกมาแล้วบอกว่า ถ้าจะไปเจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ให้ชนะตนเสียก่อนเพื่อหาผู้ชนะไปเจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ แล้ว ชอว์น ไมเคิลส์ ก็เป็นฝ่ายชนะแต่ วลาดิเมียร์ คอซลอฟ ได้ออกมาทำร้าย ชอว์น ไมเคิลส์ เพราะ ต้องการที่จะไปเจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ อาทิตย์ต่อมา จึงเป็นศึกระหว่าง ชอว์น ไมเคิลส์ กับ วลาดิเมียร์ คอซลอฟ เพื่อหาผู้ชนะไปเจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ อีกครั้ง ท้ายที่สุด ชอว์น ไมเคิลส์ ก็เป็นฝ่ายชนะ แล้วได้ไปเจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ผู้ที่ไม่เคยแพ้ใคร ในศึก เรสเซิลเมเนีย มาก่อน ด้วยสถิติ 16-0 ผลปรากฏว่า ดิอันเดอร์เทเกอร์ เป็นฝ่ายเอาชนะ ชอว์น ไมเคิลส์ และสร้างสถิติเป็น 17-0 ไปได้สำเร็จ
ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2009) อันเดอร์เทเกอร์ ได้ออกมารอบทำร้าย ซีเอ็ม พังก์ ด้วยท่า โชคสแลม หลังจากที่ ซีเอ็ม พังก์ ได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก เจฟฟ์ ฮาร์ดี ในศึก เบรกกิ้งพอยท์ อันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก ซีเอ็ม พังก์ ในแมตช์การปล้ำซับมิสชั่น ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ ในศึก เฮลล์อินเอเซลล์ (2009) อันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ ซีเอ็ม พังก์ อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำเฮลอินเอเซล สุดท้าย อันเดอร์เทเกอร์ ก็สามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท มาได้สำเร็จ ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2009) อันเดอร์เทเกอร์ จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ บาทิสตา ผลปรากฏว่าในตอนแรก บาทิสตา ชนะและได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท แต่ ทีโอดอร์ ลอง ผู้จัดการทั่วไปของ สแมคดาวน์ ออกมาบอกว่าให้เริ่มใหม่อีกครั้ง และ อันเดอร์เทเกอร์ ก็สามารถป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2010) อันเดอร์เทเกอร์จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เรย์ มิสเตริโอ และสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010)จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เรย์ มิสเตริโอ, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ, ซีเอ็ม พังก์ และ คริส เจอริโค ระหว่างการปล้ำเหลือ 2 คนสุดท้าย คือ อันเดอร์เทเกอร์ และ คริส เจอริโค แล้วอันเดอร์เทเกอร์ ถูกชอว์น ไมเคิลส์มาลอบทำร้ายด้วยท่า Sweet Chin Music ใส่อันเดอร์เทเกอร์ ทำให้เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวทให้กับเจอริโค ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 อันเดอร์เทเกอร์ ได้เจอกับ ชอว์น ไมเคิลส์ โดยมีข้อแม้ว่า ถ้า ชอว์นแพ้ ชอว์นจะต้องเลิกปล้ำ แต่ถ้า อันเดอร์เทเกอร์แพ้ เขาจะถูกทำลายสถิติไม่เคยแพ้ใครในเรสเซิลเมเนีย สุดท้ายอันเดอร์เทเกอร์ก็เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ชอว์น ไมเคิลส์ต้องยุติอาชีพมวยปล้ำ
อันเดอร์เทเกอร์ได้รับบทว่าถูกทำร้ายแล้ว เคน ก็ไล่กระทืบนักมวยปล้ำทุกคนเพื่อหาคนที่ทำร้าย อันเดอร์เทเกอร์ ล่าสุด ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) เคน จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เรย์ มิสเตริโอ และ เคน ก็เอาชนะ เรย์ ไปได้ ในขณะที่ เคน จะจับ เรย์ เข้าไปนอนในโลงศพนั้น ก็มี อันเดอร์เทเกอร์นอนอยู่ และความจริงก็ปรากฏว่า เคน คือ คนที่ทำร้ายอันเดอร์เทเกอร์ และอันเดอร์เทเกอร์จะเล่นงาน เคน ด้วยท่า โชคสแลม แต่ เคน เล่นงาน อันเดอร์เทเกอร์ ด้วยท่า Tombstone Piledriver[7] ต่อมา ในศึกไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เคน แต่ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เคน ทำให้ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ และต่อมา พอล แบเรอร์ อดีตผู้จัดการของ เคน และ อันเดอร์เทเกอร์ ก็ได้กลับมาอีกครั้ง และได้เป็นผู้จัดการของเขา ซึ่งมาในบทธรรมะ ในศึก เฮลล์อินเอเซลล์ (2010) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เคน แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะถูก พอล แบเรอร์ ผู้จัดการของเขา ได้ทำการหักหลัง และกลายเป็นผู้จัดการของ เคน และกลายเป็นบทอธรรมไปในที่สุด ต่อมา ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท อีกครั้งกับ เคน ในแมตช์การปล้ำฝังทั้งเป็น (Buried Alive) ใครจับคู่ต่อสู้ลงหลุมและเอาดินกลบได้ จะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ อันเดอร์เทเกอร์ ก็ถูกพวกกลุ่ม เดอะเน็กซัส มาก่อกวนการปล้ำ และฝังอันเดอร์เทเกอร์ ทำให้ ดิอันเดอร์เทเกอร์ เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เคน และไม่สามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท คืนมาได้ ซึ่งอันเดอร์เทเกอร์ แพ้ให้กับ เคน ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ใน เพย์-เพอร์-วิว ต่อมา ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้รับอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ทำให้ อันเดอร์เทเกอร์ ต้องพักการปล้ำไปเป็นเวลายาวนาน
ในศึกรอว์ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ อันเดอร์เทเกอร์ ได้หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ พร้อมกับ ทริปเปิล เอช ที่หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ได้เผชิญหน้าและท้าทายกัน และทั้งคู่จะได้เจอกันเป็นครั้งที่ 2 ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ซึ่งเป็นการเจอกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี ของศึก เรสเซิลเมเนีย (ครั้งก่อน อันเดอร์เทเกอร์ สามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช ไปได้ในครั้งที่ 17) ในแมตช์การปล้ำไม่มีกฎกติกา โดยมีสถิติไร้พ่าย 18-0 ของอันเดอร์เทเกอร์ เป็นเดิมพัน สุดท้าย ดิอันเดอร์เทเกอร์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช และสร้างสถิติเป็น 19-0 มาได้สำเร็จ หลังจากนั้น อันเดอร์เทเกอร์ ก็ต้องพักการปล้ำ
ในศึกรอว์ (30 มกราคม 2012) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ โดยเผชิญหน้ากับ ทริปเปิล เอช อีกครั้ง ก่อนจะไปมองโลโก้ เรสเซิลเมเนีย และทำท่าเชือดคอแล้ว ทริปเปิล เอช ก็เดินจากไป ต่อมา ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าเจอกับ ทริปเปิล เอช อีกครั้ง ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งที่ 3 ของทั้งคู่ ในศึก เรสเซิลเมเนีย (ครั้งแรก อันเดอร์เทเกอร์ สามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช ไปได้ในครั้งที่ 17 และ ครั้งที่ 2 อันเดอร์เทเกอร์ สามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช ไปได้ในครั้งที่ 27) ในรูปแบบการปล้ำในกรงเหล็ก เฮลอินเอเซล แมตช์ โดยมีสถิตไร้พ่าย 19-0 ของอันเดอร์เทเกอร์ เป็นเดิมพัน และมี ชอว์น ไมเคิลส์ เป็นกรรมการพิเศษ ในวันที่ 1 เมษายน 2012 ดิอันเดอร์เทเกอร์ออกมาทำศึกด้วยทรงผมและชุดใหม่ อันเดอร์เทเกอร์ สามารถล๊อค Hell's Gate 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช ได้ และ Tombstone Pile-driver 1 ครั้ง ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง ทริปเปิล เอช ได้ อันเดอร์เทเกอร์ ชนะ ทริปเปิล เอช อีกรอบด้วย Tombstone Pile-driver ครั้งที่ 2 และขยับสถิติขึ้นเป็น 20-0 หลังจากที่เขาสามารถอยู่รอดจากการโจมตีโดยเก้าอี้มากกว่า 15 ครั้ง การโจมตีด้วยค้อน 2 ครั้ง Pedigree ได้ 2 ครั้ง และ Sweet Chin Music จาก ชอว์น ไมเคิลส์ 1 ครั้ง หลังจากจบศึก ทั้ง 3 คนได้เดินออกจากเวทีด้วยกัน และได้รับการปรบมือมากกว่า 70,000 คน อันเดอร์เทเกอร์ ได้พักจากการปล้ำหลังศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ซึ่งรายงานบางแห่ง รายงานว่า อันเดอร์เทเกอร์ได้รับการบาดเจ็บน้อยกว่าศึกก่อน และบาดเจ็บที่ไหล่ซ้ายค่อนข้างหนัก อันเดอร์เทเกอร์อาจจะกลับมาอีกครั้งใน ปี 2013 ก่อนศึกใหญ่ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 ที่ นิวยอร์ก, รัฐนิวเจอร์ซีย์
ในศึก รอว์ ตอนที่ 1,000 (23 กรกฎาคม 2012) เคนเปิดตัวออกมาปล้ำ แต่ จินเดอร์ มาฮาล ออกมาขัดจังหวะ พร้อมด้วย ฮูนิโค, คามาโค, ไทเลอร์ เร็กส์, เคิร์ท ฮอว์กินส์ และ ดรูว์ แมคอินไตย์ แล้วก็จะขึ้นไปรุม เคน แต่เสียงระฆังดังขึ้น อันเดอร์เทเกอร์ ออกมาช่วยกันกับ เคน ถล่มบรรดานักมวยปล้ำ 6 คน จนหมด
ในศึกรอว์ วันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2013 เปิดรายด้วยไฮไลต์การกลับมาของ อันเดอร์เทเกอร์ จากนั้น ซีเอ็ม พังก์ ออกมาประกาศว่าจะทำลายสถิติของ อันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แรนดี ออร์ตัน ออกมา และบอกว่า พังก์เคยแพ้ออร์ตันใน เรสเซิลเมเนีย มาแล้วนี่ แถมยังไม่เคยเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ ใน เรสเซิลเมเนีย ด้วย ออร์ตันบอกว่าเมื่อ 8 ปีก่อนเขาเคยเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ มาแล้ว ตอนนั้นเขายังเป็นดาวรุ่ง และก็เกือบชนะได้ด้วย ตอนนี้ไม่ใช่ดาวรุ่งอีกต่อไปแล้ว และก็อยากจะเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ อีกครั้ง ออร์ตันถามแฟนๆ ในสนามว่าอยากเห็นใครเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ มากกว่ากัน พังก์? (คนดูโห่) ออร์ตัน? (คนดูเฮ) บิ๊กโชว์ ออกมาอีกคน และบอกว่าเขาต่างหากที่จะน็อค อันเดอร์เทเกอร์ เชมัส ออกมา บอกว่าเขาเป็นคนเดียวที่ไม่เคยเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ เลย ดังนั้นเขาจึงไม่เคยแพ้ อันเดอร์เทเกอร์ มาก่อน จึงเหมาะสมกว่าที่จะเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ วิคกี เกอร์เรโร ออกมาจัดแมตช์ 4 เส้า พังก์, ออร์ตัน, โชว์ และ เชมัส ผู้ชนะจะได้เจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ ใน เรสเซิลเมเนีย สุดท้ายพังก์ก็เป็นฝ่ายชนะและได้ไปเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย สุดท้ายอันเดอร์เทเกอร์ก็เอาชนะมาได้ และเพิ่มสถิตเป็น 21-0
ในศึกรอว์ (8 เมษายน 2013) อันเดอร์เทเกอร์ ออกมาที่เวที และขออุทิศชัยชนะให้กับ พอล แบเรอร์ หลังจากที่ชนะซีเอ็ม พังก์ ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แต่เดอะชีลด์ ออกมารุมล้อมอันเดอร์เทเกอร์ แต่เคนกับ แดเนียล ไบรอัน ออกมาช่วยอันเดอร์เทเกอร์ ทำให้เดอะชีลด์หนีไป ในศึกรอว์ (8 เมษายน 2013) อันเดอร์เทเกอร์ได้จับคู่กับ เคน และ ไบรอัน เจอกับ เดอะชีลด์ สุดท้ายเดอะชีลด์ก็เอาชนะไป ในศึก สแมคดาวน์ (26 เมษายน 2013) อันเดอร์เทเกอร์ได้เจอกับ ดีน แอมโบรส หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเดอะชีลด์ สุดท้ายอันเดอร์เทเกอร์ก็เอาชนะมาได้ หลังแมตช์ได้ถูกเดอะชีลด์ลอบทำร้าย จนต้องพักการปล้ำ
ชีวิตส่วนตัว[แก้]
เขาจบการศึกษาจาก Waltrip High School ในปี 1983 ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของ ทีมงานบาสเกตบอล[8] Calaway ได้แต่งงานครั้งแรกกับภรรยาของเขา Jodi Lynn ในปี 1989 และพวกเขามีลูกชาย, Gunner, เกิดในปี 1993 ก่อนที่ในการสมรสสิ้นสุดวันที่ 1999 Calaway แต่งงานกับภรรยาคนที่ 2 ของเขา Sara ใน เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ฟลอริดา ที่ 21 กรกฎาคม 2000 คู่มีลูกสาวด้วยกันสอง คือ Chasey (เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2002) และ Gracie (เกิด 15 พฤษภาคม 2005) ณ ปี 2007 เขาและซาร่าถูกหย่าร้างและเขาได้เชื่อมโยงโรแมนติกกับเพื่อนนักมวยปล้ำ Michelle McCool ผู้ที่เขาแต่งงานที่ 26 มิถุนายน 2010 ใน ฮูสตัน,เท็กซัส[9]
สถิติในเรสเซิลเมเนีย[แก้]
ศึก | นักมวยปล้ำ | หมายเหตุ |
---|---|---|
เรสเซิลเมเนีย VII | จิมมี่ "ซุปเปอร์ฟลาย" สนูกก้า | เรสเซิลเมเนีย ครั้งแรกของ อันเดอร์เทเกอร์ |
เรสเซิลเมเนีย VIII | เจค "เดอะ สเนค" โรเบิร์ตส์ | |
เรสเซิลเมเนีย IX | ไจแอนท์ ก็อนซาเลซ | |
เรสเซิลเมเนีย XI | คิง คอง บันดี้ | |
เรสเซิลเมเนีย XII | "ดีเซล" เควิน แนช | |
เรสเซิลเมเนีย 13 | ไซโค ซิด | ชิงแชมป์ WWF ปล้ำโดยไม่มีกติกา |
เรสเซิลเมเนีย XIV | เคน | |
เรสเซิลเมเนีย XV | บิ๊ก บอส แมน | กติกานรกในกรงเหล็ก ใครแพ้ต้องถูกจับแขวนคอ[10] |
เรสเซิลเมเนีย X-Seven | ทริปเปิล เอช | |
เรสเซิลเมเนีย X8 | ริก แฟลร์ | เป็นการนับสถิติไร้พ่ายของอันเดอร์เทเกอร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก |
เรสเซิลเมเนีย XIX | บิ๊กโชว์ และ เอ-เทรน | กติกาการปล้ำ 2 รุม 1 โดยอันเดอร์เทเกอร์โดนรุม เดิมเป็นกติกาแท๊กทีมโดยจับคู่กับ นาธาน โจนส์ |
เรสเซิลเมเนีย XX | เคน | เจอกับ เคน เป็นครั้งที่ 2 |
เรสเซิลเมเนีย 21 | แรนดี ออร์ตัน | หยุดสถิตินักฆ่าตำนานของแรนดี ออร์ตัน |
เรสเซิลเมเนีย 22 | มาร์ก เฮนรี | กติกาจับคู่ต่อสู้ยัดใส่โลงศพ |
เรสเซิลเมเนีย 23 | บาติสต้า | ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท สถิติไม่เคยเสียแชมป์ให้ใครของ บาติสต้า เป็นเดิมพัน[11] |
เรสเซิลเมเนีย XXIV | เอดจ์ | ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท และมีสถิติไร้พ่ายของทั้งสองฝ่ายเป็นเดิมพัน (เอดจ์ ไม่เคยแพ้ อันเดอร์เทเกอร์ ตั้งแต่เจอกันมา 5 ครั้ง) |
เรสเซิลเมเนีย XXV | ชอว์น ไมเคิลส์ | |
เรสเซิลเมเนีย XXVI | ชอว์น ไมเคิลส์ | เจอกับ ชอว์น ไมเคิลส์ เป็นครั้งที่ 2 มีสถิติไร้พ่ายของ อันเดอร์เทเกอร์ และเอาอาชีพของ ชอว์น ไมเคิลส์ เป็นเดิมพัน |
เรสเซิลเมเนีย XXVII | ทริปเปิล เอช | เจอกับ ทริปเปิล เอช เป็นครั้งที่ 2 ในแมตช์การปล้ำ No Holds Barred เป็นแมตซ์ระหว่าง ตำนาน VS ตำนาน ที่ยังเหลืออยู่ใน WWE |
เรสเซิลเมเนีย XXVIII | ทริปเปิล เอช | เจอกับ ทริปเปิล เอช เป็นครั้งที่ 3 ในแมตช์การปล้ำ Hell In A Cell, The End Of An Era Match (ศึกในกรงเหล็ก, ศึกจุดจบในตำนาน) |
เรสเซิลเมเนีย XXIX | ซีเอ็ม พังก์ | |
เกี่ยวกับมวยปล้ำ[แก้]
- ท่าไม้ตาย
- Tombstone Piledriver
- Hell's Gate / Devil's Triangle Chok - (2008 - ปัจจุบัน)
- The Last Ride - (2000 - ปัจจุบัน)
- Chokeslam
- ท่าเอกลักษณ์
- Big boot
- Corner clothesline
- Dragon sleeper
- Fujiwara armbar
- Guillotine leg drop onto the chest of an apron hung opponent
- No-handed over the top rope suicide dive
- Old School (Arm twist ropewalk chop)
- Reverse STO
- Running DDT
- Running jumping leg drop
- Running leaping clothesline
- Sidewalk slam
- ผู้จัดการ
- General Skandor Akbar
- Paul Bearer
- Paul Heyman
- Theodore Long
- Brother Love
- Dutch Mantel
- Downtown Bruno
- ฉายาและชื่ออื่นๆ
- "The Phenom"
- "The Deadman"
- "The Last Outlaw"
- "The American Bad Ass"
- "The Red Devil"
- "Big Evil"
- "The Lord of Darkness"
- "The Demon from Death Valley"
- "The Conscience of the WWE"
- เพลงเปิดตัว
- "Miracle Man" โดย Ozzy Osbourne (NJPW)
- "China White" โดย Scorpions (NWA / WCW)
- "The Grim Reaper" โดย Jim Johnston (ปี 1994- 1995)
- "Graveyard Symphony" โดย Jim Johnston (ปี 1995 - 1998)
- "Dark Side" โดย Jim Johnston (ปี 1998)
- "Ministry" โดย Jim Johnston (ปี 1999)
- "American Bad Ass" โดย Kid Rock (ปี 2000)
- "Rollin' (Air Raid Vehicle)" โดย Limp Bizkit ปี 2000 - 2002, 2003 (WrestleMania XIX)
- "Dead Man" โดย Jim Johnston (ปี 2002)
- "You're Gonna Pay" โดย Jim Johnston (ปี 2002 - 2003)
- "Rest in Peace" โดย Jim Johnston (ปี 2004 - ปัจจุบัน)
- "Ain't No Grave (Gonna Hold This Body Down)" โดย Johnny Cash (ปี 2011)
- "The Memory Remains" โดย Metallica (ปี 2012)
ผลงานทั้งหมด[แก้]
- Pro Wrestling Illustrated
- PWI Feud of the Year (1991) [12] vs. The Ultimate Warrior
- PWI Match of the Year (1998) [13] vs. Mankind in a Hell in a Cell match at King of the Ring
- PWI Match of the Year (2009) [14] vs. Shawn Michaels at WrestleMania ครั้งที่ 25
- PWI Match of the Year (2010) vs. Shawn Michaels at WrestleMania XXVI
- PWI ranked him #2 of the 500 best singles wrestlers in the PWI 500 in 2002 [15]
- PWI ranked him #21 of the top 500 singles wrestlers of the "PWI Years" in 2003
- PWI ranked him #1 of the 500 best singles wrestlers of the "PWI Years" in 2007
- United States Wrestling Association
- USWA Unified World Heavyweight Championship (2 สมัย)
- World Class Wrestling Association
- WCWA Texas Heavyweight Championship (2 สมัย)
- World Wrestling Federation/Entertainment
- WWF/E Championship (4 สมัย) [16]
- World Heavyweight Championship (3 สมัย) [17]
- WWF Hardcore Championship (1 สมัย) [18]
- WWF World Tag Team Championship (6 สมัย) - คู่กับ Stone Cold Steve Austin (1 สมัย) คู่กับ Big Show (2 สมัย) คู่กับ The Rock (1 สมัย) คู่กับ Kane (2 สมัย) [19]
- WCW Tag Team Championship (1 สมัย) - คู่กับ Kane[20]
- เป็นผู้ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล 2007
- เป็นผู้ไม่เคยแพ้ใครในศึก เรสเซิลเมเนีย (20-0)
- สแลมมีอวอร์ด for WWF's Greatest Hit (1996) Sucking Diesel into the abyss
- Slammy Award for Best Tattoo (1997)
- Slammy Award for Best Entrance Music (1997)
- Slammy Award for Star of the Highest Magnitude (1997)
- Slammy Award for Match of the Year (2009) vs. Shawn Michaels ในศึก WrestleMania XXV
- Slammy Award for Moment of the Year (2010) vs. Shawn Michaels ในศึก WrestleMania XXVI[21]
- Slammy Award Match of the Year (2012) vs. Triple H in a Hell in a Cell match at Wrestlemania XXVIII
- WWE raked him as #1 of the top 100 WWE superstars.[22]
- Wrestling Observer Newsletter
- 5 Star Match (1997) vs. Shawn Michaels in a Hell in a Cell at Badd Blood.
- Best Gimmick (1990–1994)
- Best Heel (1991)
- Feud of the Year (2007) vs. Batista
- Match of the Year (2009) vs. Shawn Michaels at WrestleMania ครั้งที่ 25
- Match of the Year (2010) vs. Shawn Michaels at WrestleMania XXVI[23]
- Most Overrated (2001)
- Readers' Least Favorite Wrestler (2001)
- Worst Worked Match of the Year (2001) with Kane vs. KroniK at Unforgiven
- Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2004)
- Worst Feud of the Year (1993) vs. Giant González
- WrestleSlam Awards
- Match of the Year (2009) vs. Shawn Michaels at WrestleMania 25
- Match of the Year (2010) vs. Shawn Michaels at WrestleMania 26