วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เรย์ มิสเตอร์ริโอ

เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ (อังกฤษRey Mysterio Jr.) มีชื่อจริงว่า ออสการ์ เกอติเอเรส์ (อังกฤษOscar Gutierrez) เกิดวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ที่ ซานดีเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเซ็นสัญญาให้กับสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ในชื่อว่า เรย์ มิสเตริโอ (อังกฤษRey Mysterio)

ประวัติในสังเวียนมวยปล้ำ[แก้]


เรย์ มิสเตริโอ เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน เชื้อสาย เม็กซิกัน เขาเป็นนักมวยปล้ำตัวเล็กที่สามารถเอาชนะนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าได้ด้วยท่าลีลาการปล้ำสไตล์เม็กซิกัน มีท่าทางผาดโผนได้หลายรูปแบบ ทำเอาคนดูลุ้นไปตาม ๆ กัน
เขาพูด ภาษาอังกฤษ และ ภาษาสเปน ได้ เพลงเปิดตัวจึงเป็น ภาษาสเปน เป็นส่วนใหญ่ (บางเวอร์ชันเป็นภาษาอังกฤษแบบเม็กซิกัน)

เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ / ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2002 - ปัจจุบัน)[แก้]

เรย์ได้ปล้ำใน WWE ครั้งแรก เมื่อปี 2002 กับ ชาโว่ เกอร์เรโร่ เขาก็เอาชนะได้สำเร็จ[1] ปี 2003 เรย์ได้มีโอกาสชิงแชมป์ครูย์เซอร์เวท จาก แมทท์ ฮาร์ดีอยู่หลายครั้ง โดยผ่านด่านทดสอบของแมทท์ ฮาร์ดี คือ การที่จะต้องปล้ำแบบ 2 รุม 1 โดยมี แชนอน มัวร์ กับ แครช ฮอลลี ลูกน้องคู่ V1 ของแมทท์ ฮาร์ดี แต่เรย์ก็เอาชนะได้ทั้งที่บาดเจ็บเส้นเอ็นพลิกที่ต้นขา[2]
ปี 2005 เรย์ได้คว้า แชมป์แทคทีม WWE คู่กับ เอ็ดดี เกอร์เรโร แต่ไม่นานก็แตกทีมกันและได้กลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งได้ปล้ำกันอยู่หลายต่อหลายแมตช์ เรย์ก็เอาชนะไปได้ทุกครั้ง เมื่อเอ็ดดีไม่มีหนทางที่จะชนะจึงออกมาแฉว่าลูกชายของเรย์ คือ โดมินิค ว่าไม่ใช่ลูกของเรย์ แต่เป็นลูกของเอ็ดดี และได้มีเรื่องกับเรย์ จนยาวนาน สุดท้ายเรย์ก็เอาชนะเอ็ดดีมาได้ ในแมตช์การปล้ำชิงการเป็นผู้ปกครองของ โดมินิค ในศึก ซัมเมอร์สแลม 2005 เรย์ก็เอาชนะมาได้อีกครั้ง ก่อนที่จะแพ้ให้กับเอ็ดดีเป็นครั้งแรกในแมตซ์กรงเหล็ก ในศึกสแมคดาวน์ เนื่องจากเรย์ไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย 619 ได้ เพราะติดกรงเหล็ก
เรย์ได้เป็นความหวังของตระกูล เกอร์เรโร ที่จะได้เป็นแชมป์โลกคนต่อไป หลังจากที่เอ็ดดีได้เสียชีวิตลง เนื่องจากเรย์เป็นนักมวยปล้ำชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน ที่ยังมีผลงานที่ดีอยู่เรย์จึงเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ แรนดี ออร์ตัน ในแมตช์รอยัลรัมเบิล ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) โดยอยู่บนเวทีได้นานถึง 62 นาที[3] และเรย์ก็ได้ไปท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 และเอาชนะ เคิร์ต แองเกิล และ แรนดี ออร์ตัน คว้าแชมป์โลกสมัยแรกมาได้สำเร็จ[4] ในศึก เดอะเกรทอเมริกันแบช 2006 เรย์ก็เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวทให้กับ บูเกอร์ ที จากการหักหลังของชาโว และในเดือนตุลาคม ทั้งคู่ได้เจอกันในแมตซ์ I Quit Match ผลปรากฏว่า ชาโวได้จับเรย์แขวนไว้กับเสาเหล็กและใช้เก้าอี้ตีเข่าเรย์ จนต้องตะโกนยอมแพ้ไปในที่สุด[5] หลังจากนั้นเรย์ก็ต้องพักการปล้ำไปนานเกือบปีจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า.[6] สุดท้ายเรย์ก็กลับมาแก้แค้นได้สำเร็จด้วยการเอาชนะชาโวได้อีกครั้งในศึก ซัมเมอร์สแลม 2007[7]
เรย์ได้ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจาก เอดจ์ ถึง 2 ครั้ง เนื่องจาก วิคกี เกอร์เรโร กับ เคิร์ท ฮอว์กินส์และแซค ไรเดอร์ พยายามที่จะรบกวนการปล้ำอยู่เสมอ[8] แถมมีอารการปวดกล้ามเนื้อ ไบเส็บด้วย ทำให้มีอุปสรรคในการปล้ำมากขึ้นซ้ำร้าย บิ๊กโชว์ ได้ออกมาทำร้ายอีก จนทำให้เรย์ต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน[9][10] ในช่วงเดือนมิถุนายน เรย์ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากรักษาแผลกล้ามเนื้อหายดีแล้ว เขาก็ถูกดราฟท์ ไปสังกัดรอว์ในทันที[11]
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 เรย์สามารถคว้า แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล มาได้จาก เจบีแอล โดยใช้เวลาเพียง 21 วินาที เท่านั้น[12]ในเดือนพฤษภาคม 2009 เรย์ก็ได้ถูกดราฟท์กลับมาที่สแมคดาวน์[13] และเสียแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลให้กับ คริส เจอริโค ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) โดยถูกเจอริโคใช้กลโกงดึงหน้ากากของเรย์ออกมา ในศึก เดอะแบช (2009) เรย์ก็เอาแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล คืนจากเจอริโค มาได้อีกครั้ง ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้กับ จอห์น มอร์ริสัน ในศึกสแมคดาวน์ เดือนกันยายน 2009
ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) เรย์ได้ปล้ำในแมตช์ 4 เส้า ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจาก ดิอันเดอร์เทเกอร์ ร่วมด้วย บาติสตา และ ซีเอ็ม พังก์ ซึ่งอันเดอร์เทเกอร์เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ไว้ได้ ทำให้บาติสตาโมโหจึงทำร้ายเรย์ จากนั้นก็ประกาศตัดเพื่อนกับเรย์และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[14] ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2009) เรย์กับบาติสตาก็ได้เจอกันและผลปรากฏว่า บาติสตาเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้น เรย์ก็จัดการกับบาติสตา และเอาชนะมาได้ในระยะหลัง และขัดขวางไม่ให้บาติสตาได้ชิงแชมป์โลกกับคนอื่นอีกด้วย[15]
เรย์ได้เปิดศึกกับซีเอ็ม พังก์ และท้าเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 สุดท้ายเรย์ก็เอาชนะมาได้ และได้รีแมตช์กันในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) โดยถ้า เรย์ ชนะ พังก์ ต้องโดนตัดผม สุดท้ายเรย์ก็แพ้ไป ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) เรย์ได้เจอกับพังก์อีกครั้ง โดยถ้า เรย์ ชนะ พังก์ ต้องโดนตัดผม แต่ถ้า เรย์ แพ้ เรย์จะต้องเข้ามาอยู่กลุ่ม สเตรจต์เอดจ์โซไซตี้ สุดท้ายเรย์เอาชนะพังก์มาได้ และตัดผมของพังก์จนหัวล้าน[16] ต่อมาเรย์ได้เข้ารอบในศึก ไฟเทิล โฟร์เวย์ (2010) ได้ปล้ำ 4 เส้า ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจาก แจ๊ค สแวกเกอร์ ร่วมด้วย ซีเอ็ม พังก์ และ บิ๊กโชว์ สุดท้ายเรย์ได้กลายเป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ แต่ครองแชมป์ได้เพียงแค่เดือนเดียว เรย์ก็เสียแชมป์ให้กับ เคน เพราะว่าหลังจากเรย์ชนะสแวกเกอร์ไปแล้ว แต่เคนกับใช้สิทธิ์กระเป๋า Money In The Bank ในสภาพที่เรย์ไม่พร้อมปล้ำและรวมทั้งขาของเรย์ที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้เรย์พ่ายแพ้ต่อเคน และเสียแชมป์ไปในที่สุด ในศึก สแมคดาวน์ เรย์ได้เจอกับสแวกเกอร์ เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 สุดท้ายเรย์เป็นฝ่ายชนะและได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท คืนจากเคนในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถเอาแชมป์คืนมาได้
เรย์ได้เปิดศึกกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ซึ่งเรย์ถูกเดล รีโอเล่นงานที่แขนซ้ายจนต้องพักการปล้ำ[17][18] แต่ไม่นาน เรย์ก็กลับมาเอาคืนเดล รีโอ ด้วยการเอาชนะและทำลายสถิติไร้พ่ายของเดล รีโอตั้งแต่ที่เข้ามาปล้ำใน WWE[19] ต่อมาเรย์ก็เอาชนะ โคดี โรดส์ และได้เข้าไปเป็นสมาชิกคนที่ 2 ของทีมสแมคดาวน์ ไปเจอกับทีมรอว์ ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) สุดท้ายทีมสแมคดาวน์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) ทีมของ เรย์ นำโดย เรย์, บิ๊กโชว์, โคฟี คิงส์ตันเอ็มวีพี และ คริส มาสเตอร์ เจอกับทีมของ เดล รีโอ ที่มีทั้ง ดรูว์ แมคอินไตย์, โคดี โรดส์, ไทเลอร์ เร็กส์ และ แจ๊ค สแวกเกอร์ และทีมของเรย์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2010) เรย์ได้เจอกับ เคน, อัลเบอร์โต เดล รีโอ และ เอดจ์ ในการปล้ำ 4 เส้า เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในแมตช์การปล้ำ TLC Match สุดท้ายเอดจ์เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้ ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) เรย์ได้เจอกับ เอดจ์, เคน, ดรูว์ แมคอินไตย์, เวด บาร์เร็ตต์ และ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท สุดท้ายเอดจ์ป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จ
เรย์ได้เปิดศึกกับ โคดี โรดส์ และท้าเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 สุดท้ายเรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป[20] ต่อมาเรย์ได้ย้ายไปอยู่รอว์ จากผลการดราฟท์ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)เรย์ได้เจอกับ โคดี โรดส์ อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำจับกดที่ไหนก็ได้ สุดท้ายเรย์ก็เป็นฝ่ายชนะและล้างแค้นโคดี มาได้สำเร็จ[21] ในศึกรอว์ เรย์ได้เจอกับเดอะ มิซ และอัลเบอร์โต เดล รีโอ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา ในการปล้ำ I Quit Match ในศึก โอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) สุดท้ายเดอะ มิซเป็นฝ่ายชนะ หลังแมตช์ อาร์-ทรูธ ได้มาลอบทำร้ายเรย์ ต่อมาเรย์ได้ขอท้าเจอกับอาร์-ทรูธ ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต แต่เรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป[22] ในศึกรอว์ เรย์ได้จับคู่กับจอห์น ซีนา เจอกับอาร์-ทรูธ และซีเอ็ม พังก์ โดยมี เบรต ฮาร์ต เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้ายเรย์และซีนา ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ
ในศึก แคปิเทล พูนิชเมนท์ เรย์ได้เจอกับ ซีเอ็ม พังก์ สุดท้ายเรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไปในที่สุด[23] ในศึกรอว์ (25 กรกฎาคม 2011) เรย์ได้เจอกับเดอะ มิซ โดยถ้าใครชนะก็จะได้แชมป์ WWE ทันที สุดท้ายเรย์ได้เป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์ WWE เป็นสมัยแรกมาได้สำเร็จ ในคืนเดียวกัน เรย์ต้องป้องกันแชมป์กับจอห์น ซีนา สุดท้ายเรย์ก็เสียแชมป์ให้กับซีนา ในศึกรอว์ (15 สิงหาคม 2011) เรย์ได้ชิงแชมป์ WWE กับอัลเบอร์โต เดล รีโอ เจ้าของตำแหน่ง สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ หลังแมตช์ เดล รีโอได้ลอบทำร้ายเรย์จนได้รับบาดเจ็บ แต่ซีนาออกมาขัดขวางเอาไว้ หลังจากนั้น เรย์ก็ต้องพักการปล้ำยาวนานหลายเดือน[24] ในศึกรอว์ (12 ธันวาคม 2011) เรย์ ได้ออกมาปรากฏตัวและประกาศมอบรางวัลสแลมมี อวอร์ด ในซุปเปอร์สตาร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ถึงแม้อาการบาดเจ็บของ เรย์ ยังไม่หายดี[25]
เว็บไซต์ WWE.com ได้ประกาศว่า เรย์ถูกแบนไปเป็นเวลา 60 วัน หลังจากไม่ผ่านการตรวจสุขภาพตามระเบียบการของสมาคม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2012 สำหรับการฝ่าฝืนระเบียบการของสมาคม ซึ่งเป็นการถูกแบนครั้งที่สองแล้ว ถ้าหากมีครั้งที่สามเมื่อไหร่ เรย์ จะถูก WWE ไล่ออกในทันที ตอนนี้ เรย์ ก็อยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2011[26]
ในศึกรอว์ (16 กรกฎาคม 2012) อัลเบอร์โต เดล รีโอ เล่นงาน แซค ไรเดอร์ ด้วยท่า Cross ArmBreaker แต่เสียงเพลงของเรย์ ดังขึ้น เรย์กระโดดขึ้นเวทีมาโดนเดล รีโอกระทืบ แต่สักพักก็ต่อยสวนได้แล้วก็จัดการด้วย 619 จนเดล รีโอต้องหนีไป[27] ในศึก สแมคดาวน์ (20 กรกฎาคม 2012) เรย์ได้จับคู่กับ เชมัส เจอกับเดล รีโอ และ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ สุดท้ายเรย์กับเชมัส ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดล รีโออัดเชมัสแล้วต่อด้วย Cross ArmBreaker แล้วจากไปปล่อยให้ซิกก์เลอร์เอากระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ มาใช้สิทธิ์ แต่เรย์มาใส่ท่า 619 เล่นงานใส่ซิกก์เลอร์ ช่วยเชมัสไว้ได้ เชมัสเลยใส่ท่า โบรก คิก ปิดรายการไป[28] ในศึก รอว์ ตอนที่ 1,000 (23 กรกฎาคม 2012) เรย์ได้จับคู่กับ เชมัส และ ซิน คารา เจอกับ เดล รีโอ, ซิกก์เลอร์ และ คริส เจอริโค สุดท้ายทีมของเรย์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะมาได้สำเร็จ
ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2012) เรย์ได้ชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลกับเดอะ มิซ สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[29] ในศึกรอว์ (10 กันยายน 2012) เรย์ได้เจอกับโคดี โรดส์ สุดท้ายเรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป หลังแมตช์ เดอะ มิซ ขึ้นมาเยาะเย้ยเรย์ แล้วจะจับ Skull-Crushing Finale แต่โคดีเข้ามาจับเดอะ มิซใส่ CrossRhodes แล้วก็หยิบเข็มขัดแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล ขึ้นมาชู ในศึก สแมคดาวน์ (14 กันยายน 2012) ทีโอดอร์ ลอง ได้จัดแมตช์การปล้ำ 4 เส้า เพื่อชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) ระหว่าง เรย์, เดอะ มิซ, โคดี โรดส์ และ ซิน คารา สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[30][31]
ในศึกรอว์ (1 ตุลาคม 2012) เรย์ กับ ซิน คารา ได้เอาชนะ พรีโมและอีปิโค และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในแมตช์การปล้ำทัวร์นาเมนต์แทคทีม เพื่อชิงแชมป์แทคทีม WWE[32] ในศึกรอว์ (8 ตุลาคม 2012) เรย์ กับ ซิน คารา ได้เอาชนะ ไพรม์ไทม์เพลเยอส์ (ไทตัส โอ'นิล และ ดาร์เรน ยัง) และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ[33] ในศึกรอว์ (22 ตุลาคม 2012) เรย์ กับ ซิน คารา ก็แพ้ให้กับทีม โรดส์ สคูลาร์ส (โคดี โรดส์ กับ แดเมียน แซนโดว์) และตกรอบในทัวร์นาเมนต์แทคทีมไป[34] ในศึกรอว์ (4 กุมภาพันธ์ 2013) เรย์ได้เจอกับ แดเนียล ไบรอัน แต่เรย์ก็แพ้ไป หลังแมตช์ มาร์ก เฮนรี ออกมาเล่นงานไบรอัน จากนั้นก็ขึ้นไปจับเรย์มาเล่นงาน ซิน คาราออกมาช่วยก็โดน World's Strongest Slam จากนั้นเรย์พยายามสู้ก็โดน World's Strongest Slam ไปอีกคน[35]

เกี่ยวกับมวยปล้ำ[แก้]


เรย์ ใช้ท่า 619 เล่นงาน เอ็ดดี เกอร์เรโร

เรย์ ใช้ท่า West Coast Pop เล่นงาน เคน

เรย์ ใช้ท่า West Coast Pop เล่นงาน เคิร์ต แองเกิล
  • ท่าไม้ตาย
    • "619"
    • "West Coast Pop"
    • "Frog splash"
  • ท่าเอกลักษณ์
    • Armbar, often transitioned into a hammerlock
    • Arm drag, often used as a counter
    • Arm wrench inside cradle
    • Baseball slide, sometimes transitioned into a headscissors takedown
    • Bronco buster
    • Bulldog, often used as a counter
    • DDT, often used as a counter
    • Diving hurricanrana, sometimes off of the ring apron
    • Dragonrana
    • Dragon sleeper
    • Dropkick, sometimes while springboarding or from the top rope
    • Green mist - 2011-ปัจจุบัน
    • Headscissors DDT or headscissors reverse DDT
    • Headscissors takedown
    • High speed roundhouse kick to the head of a seated opponent, as a roll out counter to a sunset flip
    • Inverted STF
    • Leg-feed enzuigiri
    • Multiple crossbody variations
      • Diving
      • Reverse
      • Running
      • Slingshot (Plancha), sometimes with corkscrew
      • Springboard, sometimes from the second rope
    • Multiple moonsault variations
      • Diving, sometimes to a standing opponent
      • Arabian press
      • Springboard
      • Standing
    • Mysterio Express (Leg trap sunset flip powerbomb)
    • Mysterio-Rana (Mysterio jumps onto an opponent's shoulders and then twists around into a hurricanrana pin), sometimes preceded by a cartwheel
    • Slingshot or springboard somersault seated senton onto a standing opponent outside of the ring, sometimes transitioned into a hurricanrana
    • Spinning heel kick, sometimes while springboarding
    • Springboard sitout facebuster
    • Standing shiranui
    • Suicide dive
    • Thesz press
    • Tilt-a-whirl or tope-rope headscissors takedown
    • Victory roll
    • Wheelbarrow bodyscissors transitioned into either an bulldog, or a DDT
  • คู่กับ บิลลี คิดแมน
    • 619 (Tiger feint kick) by Mysterio into a Shooting Star Press by Kidman
    • Baseball slide to the groin by Kidman into a Bronco buster by Mysterio
    • Catapult by Kidman into a diving hurricanrana by Mysterio
    • Double sitout chokeslam
    • Nutcracker Suite (Kidman holds the opponents legs while Rey performs a Droppin' Da Dime to their groin)
    • Wheelbarrow facebuster (Kidman) / Droppin' Da Dime (Mysterio) combination
  • คู่กับ เอดจ์
    • 619 (Tiger feint kick) by Mysterio followed by a Spear or Edgecution by Edge
    • Bombs Away (Simultaneous powerbomb (Edge) / springboard seated senton (Mysterio) combination)
    • Catapult by Edge into a diving hurricanrana by Mysterio
    • Double missile dropkick
    • Hurricanrana by Mysterio into a Spear by Edge
    • Powerbomb lift by Edge to Mysterio, Mysterio then moonsaults on to the opponent (the opponent (s) is usually standing outside the ring)
  • คู่กับ ร็อบ แวน แดม
    • 4:20 (Van Dam lifts Mysterio up and drops him while simultaneously dropping himself into a seated position, resulting in a double Droppin' Da Dime to an opponent's throat and chest)
    • 619 (Tiger feint kick) by Mysterio followed by a Five-Star Frog Splash by Van Dam
    • Catapult by Van Dam into a diving hurricanrana by Mysterio
    • Rolling Thunder by Van Dam followed by a Droppin' Da Dime by Mysterio
  • คู่กับ ซิน คารา
    • Aided head scissors
    • Snapmare (Rey) followed with double kicks by Cara and Rey to the opponent's chest and back
  • ฉายาและชื่ออื่น ๆ
    • "El Super Duper Niño" ("The Super Duper Kid") (ECW)
    • "The Technical Kid From San Diego" (ECW / WCW)
    • "The Giant Killer" (WCW / WWE)
    • "The Master of the 619" (WWE)
    • "The Ultimate Underdog" (WCW / WWE)
    • "The Biggest Little Man" (WWE)
    • "The Masked Maestro" (WWE)
    • "The Heart and Soul of Smackdown" (WWE)
    • "The Sensation" (WWE)
    • "God's Humble Servant" (WWE)
  • เพลงเปิดตัว
    • "March of Death" โดย Jimmy Hart (WCW) (1992–1999)
    • "Bow Wow Wow" โดย Konnan and Mad One (WCW) (1999)
    • "Psycho" โดย Konnan and Mad One (WCW) (1999–2001)
    • "619" โดย Chris Classic and Jim Johnston (WWE) (2002–2005)
    • "Booyaka" โดย Rey Mysterio and Mad One (WWE) (2005–2006)
    • "Booyaka 619" โดย P.O.D. (WWE) (2006–ปัจจุบัน)

ผลงานทั้งหมด[แก้]

  • Asistencia Asesoría y Administración
    • Mexican National Trios Championship (1 สมัย) – คู่กับ Octagón และ Super Muñeco[36]
    • Mexican National Welterweight Championship (1 สมัย) [37]
    • AAA Hall of Fame (Class of 2007)
  • Hollywood Heavyweight Wrestling
    • HHW Light Heavyweight Championship (1 สมัย)
  • International Wrestling All-Stars
    • IWAS Tag Team Championship (1 สมัย) – คู่กับ Konnan[38]
  • International Wrestling Council
    • International Wrestling Council World Middleweight Title (2 สมัย)
  • Pro Wrestling Illustrated
    • PWI ranked him #4 of the 500 best singles wrestlers in the PWI 500 in 1999[39]
    • PWI ranked him #7 of the 500 best singles wrestlers in the PWI 500 in 1996
    • PWI ranked him #8 of the 500 best singles wrestlers in the PWI 500 in 2011
    • PWI ranked him #56 in the PWI Years in 2003
  • Tijuana, Mexico
    • Tijuana Hall of Fame (Class of 2006)
  • World Championship Wrestling[40]
    • WCW Cruiserweight Championship (5 สมัย)
    • WCW Cruiserweight Tag Team Championship (1 สมัย) – คู่กับ Billy Kidman
    • WCW World Tag Team Championship (3 สมัย) – คู่กับ Billy Kidman (1), Konnan (1), และ Juventud Guerrera (1)
    • WCW Magazine Match of the Year (1997) vs. Eddie Guerrero, for the WCW Cruiserweight Championship, WCW Halloween Havoc, October 26
  • World Wrestling Association
    • WWA Lightweight Championship (3 สมัย) [41]
    • WWA Tag Team Championship (1 สมัย) [42] – คู่กับ Rey Misterio
    • WWA Welterweight Championship (3 สมัย) [43]
  • World Wrestling Council
    • WWC World Junior Heavyweight Championship (1 สมัย) [44]
  • World Wrestling Entertainment
    • WWE Championship (1 สมัย)
    • World Heavyweight Championship (2 สมัย) [45]
    • WWE Intercontinental Championship (2 สมัย) [46][47]
    • WWE Tag Team Championship (4 สมัย) – คู่กับ Edge (1), Rob Van Dam (1), Eddie Guerrero (1), และ Batista (1) [48]
    • WWE Cruiserweight Championship (3 สมัย)
    • 2010 Bragging Rights Cup with Smackdown Team.
    • Royal Rumble (2006)
    • Twenty First Triple Crown Champion
  • Wrestling Observer Newsletter awards
    • Best Flying Wrestler (1995 – 1997, 2002 – 2004)
    • Best Wrestling Maneuver (1995) West Coast Pop
    • Match of the Year (2002) with Edge vs. Chris Benoit and Kurt AngleWWE No Mercy, October 20
    • Most Outstanding Wrestler (1996)
    • Rookie of the Year (1992)
    • Worst Feud of the Year (2008) with Kane
    • Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2010)

แมตช์ที่มีสิ่งต่าง ๆ เป็นเดิมพัน[แก้]


สิ่งที่เดิมพันผู้ชนะผู้แพ้สถานที่วันที่หมายเหตุ
หน้ากากเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์Mr. CóndorAcapulcoGuerreroสิงหาคม 14, 1992[49]
ผมเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์Rocco ValenteTampico, Tamaulipasตุลาคม 18, 1992[49]
ผมเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์Tony ArceAcapulcoGuerreroพฤศจิกายน 6, 1992[49]
หน้ากากเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์El BandidoQuerétaro, Querétaroพฤษภาคม 28, 1993[49]
ผมเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์VulcanoMonterreyNuevo Leónกันยายน 11, 1993[49]
หน้ากากเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์MisteriosoTijuanaBaja Californiaธันวาคม 19, 1996[49][50]
หน้ากากเรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์เอ็ดดี เกอร์เรโรLas Vegas, Nevadaตุลาคม 26, 1997[49]
หน้ากากเควิน แนช และ สก็อตต์ ฮอลล์เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ และ KonnanOakland, Californiaกุมภาพันธ์ 21, 1999[49]
Custody of Dominickเรย์ มิสเตริโอเอ็ดดี เกอร์เรโรWashington D.CAugust 21, 2005
ตำแหน่งแชมป์เรย์ มิสเตริโอคริส เจอริโคSacramento, Californiaมิถุนายน 28, 2009
ผมเรย์ มิสเตริโอซีเอ็ม พังก์DetroitMichiganพฤษภาคม 23, 2010
                                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น